ในอดีต หากเอ่ยชื่อ อาจารย์ซ่วน บันญะฑะโล แห่งวัดลาดใต้ จ.ฉะเชิงเทรา คงไม่มีใครไม่รู้จักชื่อของยอดพระเกจิชื่อดังแห่งยุคท่านนี้ โดยเฉพาะเรื่องของปลัดขิก สุดยอดเครื่องรางของขลังที่ท่านได้ปลุกเสกเอาไว้ เดิมทีพระอาจารย์ซ่วนได้จำพรรษาอยู่ที่วัดลาดใต้ แต่มีผู้คนขอให้ท่านช่วยสะเดาะเคราะห์และได้มาขอเครื่องรางของขลังกันเป็นจำนวนมาก พระอาจารซ่วนจึงได้เข้ามาก่อตั้งสำนักสงฆ์แห่งนี้ขึ้นไว้ เพื่อเป็นสถานที่พักผ่อน เชื่อกันว่าหุ่นทุกตัวที่สำนักสงฆ์แห่งนี้ มีกระดูกของผีตายโหงผสมอยู่ด้วยและยังมีการจัดโต๊ะเซ่นไหว้ทุกๆวัน โดย ส่วนใหญ่จะเป็นหุ่นรูปปั้นตามวรรณคดีไทยและหุ่นรูปปั้นทางศาสนาต่างๆ ต่อมาหลังจากที่ท่านได้มรณะภาพในปีพ.ศ.2536 ด้วยวัย 63 ปี สำนักสงฆ์แห่งนี้จึงถูกปล่อยทิ้งร้างเอาไว้นานถึง 24 ปี จนมีต้นไม้และเถาวัลย์น้อยใหญ่ขึ้นปกคลุมจนดูหน้าสะพรึงกลัวของคนที่ผ่านมาเห็น แต่ก็มีชาวบ้านมาขอโชคลาภเป็นจำนวนมาก เนื่องจากสถานที่แห่งนี้ขึ้นชื่อในเรื่องของการให้โชค ให้ลาภ
เริ่มต้นด้วยจุดแรก ที่คนมาขอเรื่องโชคลาภ งาน และเงินทอง กับเจ้าพ่อโคตวย กับเจ้าแม่โหตี หลักๆจะช่วยเรื่องค้าขาย ล่าสุดมีคนขายพริกไทยมาขอแล้วก็ได้รับ จนทำให้ศาลนี้ได้รับการบูรณะเป็นอยางดี
ต่อไปเป็นเสือบี้ เคยเป็นข่าวดังอยู่ช่วงหนึ่ง เสือบี้มาจากภาพใต้ คนสมัยก่อนจะเรียกจอมโจรว่าเสือ หลักๆคนจะมาขอเรื่องคดีความ ทวงหนี้ ยืมเงินไม่คืน ล่าสุดมีคนรถหายมาขอให้ตามรถให้ และก็ได้รถคืน
จุดต่อไปเป็น ท้าวเวสสุวรรณ ถ้าไม่สังเกตบางคนจะไม่ค่อยเห็น พลาดไม่ได้เลย แต่ใครที่มาต้องสังเกตมองดีๆ จะได้เจอแบบพวกเรา
จุดสุดท้ายกับกุมารแดง หลักๆคนที่มาก็จะขอเลข ซึ่งกุมารแดงคือกุมารทอง ของ อ.ซ่วน ซึ่งอยู่ติดตัวท่านมาตั้งนานแล้ว ซึ่งมีคนถูกติดต่อกันถึง 9 งวด